แนวข้อสอบความรู้เกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ [ชุดที่ 1]
ความรู้เกี่ยวกับประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 88/2557 เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ
ข้อที่ 1. คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีประกาศการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติเพื่อปรับปรุงระบบตามข้อใด ?
ก. ระบบการบริหารบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ข. ระบบรักษาความปลอดภัยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ค. ระบบการเลื่อนตำแหน่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ง. ระบบการอำนวยความยุติธรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ข้อที่ 2. การพิจารณาดำเนินการคัดเลือกข้าราชการตำรวจเพื่อดำเนินการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต้องพิจารณาตามที่บุคคลตามข้อใดเสนอ ?
ก. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ข. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ค. รองนายกรัฐมนตรี
ง. นายกรัฐมนตรี
ข้อที่ 3. ตามระเบียบนี้การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความแตกต่างจากพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 อย่างไร ?
ก. แต่งต่างกันตรงที่ตามระเบียบนี้รัฐมนตรีต้องคัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจ แล้วเสนอ ก.ต.ช. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน แล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
ข. แต่งต่างกันตรงที่ตามระเบียบนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต้องคัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ หรือรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แล้วเสนอ ก.ต.ช. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน แล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
ค. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
ง. ผิดทั้งข้อ ก และ ข
ข้อที่ 4. การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการ และพนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ในสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามระเบียบนี้ ต้องดำเนินการตามข้อใด ?
ก. ให้ผู้บัญชาการคัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจในกองบัญชาการนั้นเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาเสนอ ก.ตร. ให้ความเห็นชอบก่อน แล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
ข. ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจในสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเสนอ ก.ตร. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน แล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
ค. ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจในสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเสนอ ก.ตร. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน แล้วให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ออกคำสั่งแต่งตั้ง
ง. ให้ผู้บัญชาการคัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจในกองบัญชาการนั้นเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาเสนอ ก.ตร. ให้ความเห็นชอบก่อน แล้วให้ผู้บัญชาการเป็นผู้ออกคำสั่งแต่งตั้ง
ข้อที่ 5. การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามข้อใด ต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ?
ก. รองผู้บัญชาการ
ข. รองผู้บังคับการ และพนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญ
ค. ผู้กำกับการ และพนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ
ง. สารวัตร และพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ
ความรู้เกี่ยวกับกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ. 2556
ข้อที่ 6. ข้อใดให้ความหมายของ “การสืบสวนข้อเท็จจริง” ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ. 2556 ได้ชัดเจนที่สุด ?
ก. การแสวงหาข้อเท็จจริงของข้าราชการตํารวจ
ข. การแสวงหาพยานหลักฐานของข้าราชการตํารวจ
ค. การแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของข้าราชการตํารวจ
ง. การแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของข้าราชการตํารวจว่าได้กระทําผิดวินัยตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่อย่างไร
ข้อที่ 7. ในการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือสั่งให้ผู้ใดทําการสืบสวน ประธานกรรมการหรือผู้สืบสวนต้องเป็นบุคคลตามข้อใด ?
ก. ผู้รู้เห็นเหตุการณ์ในเรื่องที่สืบสวน
ข. รัฐมนตรี
ค. ข้าราชการตํารวจชั้นสัญญาบัตรที่มีตําแหน่งและยศไม่ต่ํากว่าผู้ถูกกล่าวหา
ง. เจรตำรวจ
ข้อที่ 8. ในกรณีที่คณะกรรมการสืบสวนได้แจ้งคําสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาต้องชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องที่ถูกกล่าวหา ต่อประธานกรรมการสืบสวนภายในกี่วันนับตั้งแต่วันที่รับทราบคําสั่ง ?
ก. ภายในสามวันนับแต่วันที่รับทราบคําสั่ง
ข. ภายในห้าวันนับแต่วันที่รับทราบคําสั่ง
ค. ภายในสิบวันนับแต่วันที่รับทราบคําสั่ง
ง. ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่รับทราบคําสั่ง
ข้อที่ 9. คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนไม่มีหน้าที่ ตามข้อใด ?
ก. สืบสวนตามหลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาที่กําหนดในกฎ ก.ตร. นี้ เพื่อแสวงหาความจริง ในเรื่องที่กล่าวหาและดูแลให้บังเกิดความยุติธรรมตลอดการสืบสวน
ข. รวบรวมประวัติของผู้ถูกกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กล่าวหาเท่าที่จําเป็นเพื่อประกอบการพิจารณา
ค. จัดทําบันทึกการปฏิบัติงานที่มีการสืบสวนไว้ทุกครั้ง
ง. ให้บุคคลอื่นเข้าร่วมทําการสืบสวนเพื่อเป็นพยาน
ข้อที่ 10. ในการนําเอกสารหรือวัตถุมาใช้เป็นพยานหลักฐานในสํานวนการสืบสวน คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนต้องบันทึกอย่างไร ?
ก. ไม่ต้องบันทึก
ข. ให้บันทึกไว้ด้วย ว่าได้มาอย่างไร
ค. ให้บันทึกไว้ด้วย ว่าได้มาอย่างไร และจากผู้ใด
ง. ให้บันทึกไว้ด้วย ว่าได้มาอย่างไร จากผู้ใด และเมื่อใด
ข้อที่ 11. ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาให้ถ้อยคํารับสารภาพว่าได้กระทําการตามที่ถูกกล่าวหาให้คณะกรรมการ สืบสวนหรือผู้สืบสวน ดำเนินการตามข้อใด ?
ก. แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบว่าการกระทําของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดวินัยกรณีใด ตามมาตราใด
ข. แจ้งให้ศาลออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหา พร้อมทั้งดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหา
ค. ดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหา ตามความผิดที่ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำ
ง. สั่งขังผู้ถูกกล่าวหาไว้ก่อน แล้วจึงแจ้งผู้ถูกกล่าวหาทราบว่าการกระทําของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดวินัยกรณีใด ตามมาตราใด และ ดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหา ตามความผิดที่ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำ
ข้อที่ 12. ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยอมรับสารภาพ และต้องการยื่นคําชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นหนังสือ ผู้ถูกกล่าวต้องยื่นหนังสือชี้แจงภายในกี่วัน ?
ก. ภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งเรื่องที่ถูกกล่าวหา
ข. ภายในห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งเรื่องที่ถูกกล่าวหา
ค. ภายในสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งเรื่องที่ถูกกล่าวหา
ง. ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งเรื่องที่ถูกกล่าวหา
ข้อที่ 13. ในการสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาและพยานของคณะกรรมการสืบสวนต้องมีกรรมการ สืบสวนไม่น้อยกว่ากี่คน จึงจะสืบสวนได้ ?
ก. ต้องมีกรรมการสืบสวนไม่น้อยกว่าสองคนจึงจะสืบสวนได้
ข. ต้องมีกรรมการสืบสวนไม่น้อยกว่าสามคนจึงจะสืบสวนได้
ค. ต้องมีกรรมการสืบสวนไม่น้อยกว่าสี่คนจึงจะสืบสวนได้
ง. ต้องมีกรรมการสืบสวนไม่น้อยกว่าห้าคนจึงจะสืบสวนได้
ข้อที่ 14. การสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาและพยาน คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนต้องบันทึกถ้อยคําตามแบบใด ?
ก. แบบ สส.3 ที่ ก.ตร. กําหนด
ข. แบบ สส.4 ที่ ก.ตร. กําหนด
ค. แบบ สส.5 ที่ ก.ตร. กําหนด
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
ข้อที่ 15. หากคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนสงสัยว่าผู้ถูกกล่าวหากระทําผิด วินัยในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือคําสั่งให้สืบสวน ให้ประธาน กรรมการหรือผู้สืบสวน ทำตามข้อใด ?
ก. ไม่ต้องทำอะไร
ข. ให้รายงานไปยังผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สั่งให้สืบสวนโดยเร็ว
ค. ให้เขียนบันทึกเป็นรายงานไว้ตามแบบ สส.3 ที่ ก.ตร. กําหนด แนบไปกับบันทึกการสืบสวน
ง. ให้เขียนบันทึกเป็นรายงานไว้ตามแบบ สส.3 หรือแบบ สส.4 ที่ ก.ตร. กําหนด แนบไปกับบันทึกการสืบสวน
ข้อที่ 16. หากในระหว่างการสืบสวนมีการสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาไปอยู่นอกบังคับบัญชาของผู้สั่งให้สืบสวน ให้คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนทําตามข้อใด ?
ก. ให้เลิกทำการสืบสวน
ข. ให้คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนทําการสืบสวนต่อไป จนเสร็จ
ค. ให้คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนทําการสืบสวนต่อไป จนเสร็จ แล้วทํารายงานการสืบสวนเสนอต่อผู้สั่งแต่งตั้ง
ง. ให้คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนทําการสืบสวนต่อไป จนเสร็จ แล้วทํารายงานการสืบสวนเสนอต่อผู้สั่งแต่งตั้ง และให้ผู้สั่งแต่งต้ั้ง ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาคนใหม่ของผู้ถูกกล่าวหา
แนวข้อสอบเก่าจริยธรรมและกฎหมายที่ประชาชนควรรู้ [ชุดที่ 1]
คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
ข้อที่ 1. นายสมพรได้หายตัวไปจากจังหวัดชุมพรซึ่งเป็นภูมิลำเนาของตนโดยที่ไม่มีใครรู้แน่ว่านายสมพรหายตัวยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ตลอดระยะเวลา 5 ปี ดังนั้นบุคคลใดที่มีอำนาในการร้องขอให้ศาลสั่งนายสมพรเป็นคนสาบสูญ ?
ก. พนักงานสอบสวน
ข. ผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการ
ค. พนักงานฝ่ายปกครอง
ง. ทนายความ
ข้อที่ 2. หากเอกต้องการซื้อช้างของโทเอกต้องทำอย่างไรจึงจะทำให้การซื้อขายช้างดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย ?
ก. ทำเป็นหนังสือ
ข. จดทะเบียน
ค. มีหลักฐานเป็นหนังสือ
ง. ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ข้อที่ 3. สนขายที่ดินให้แก่สิทธิ์โดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยในสัญญาซื้อขายที่ดินฉบับดังกล่าวมีข้อตกลงว่าสนผู้ขายสามารถที่จะไถ่ ที่ดินดังกล่าวได้สัญญาซื้อขายดังกล่าวเป็นสัญญาซื้อขายประเภทใด ?
ก. สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด
ข. สัญญาจะซื้อจะขาย
ค. สัญญาขายฝาก
ง. สัญญาเช่าซื้อ
ข้อที่ 4. วินัยทำสัญญาให้อนุชาเช่าบ้านเป็นเวลา 3 ปี ต่อมาวินัยได้ขายบ้านหลังนั้นให้อมร เมื่ออมรทราบว่าบ้านหลังดังกล่าววินัยได้ให้อนุชาเช่าอมรต้องการให้อนุชาออก จากบ้านอมรจึงได้ฟ้องขับไล่อนุชาให้ออกจากบ้านหลังดังกล่าวได้หรือไม่ ?
ก. ได้ เพราะ กรรมสิทธิ์ในบ้านดังกล่าวเป็นของอมรแล้ว
ข. ได้ เพราะ สัญญาเช่าระงับลงแล้ว
ค. ไม่ได้ เพราะ สัญญาเช่ายังคงผูกพันผู้รับโอนอยู่จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลา
ง. ได้ เพราะ เมื่ออมรรับโอนกรรมสิทธิ์แล้วสิทธิต่างๆที่บุคคลภายนอกผูกพันอยู่กับผู้รับโอนย่อมระงับไป
ข้อที่ 5. อุทัยเช่าบ้านของสุทินโดยไม่ได้ทำสัญญาเช่าเป็นเวลา 1 ปี โดยตกลงชำระค่าเช่ากันเดือนละ12,000บาท ต่อมาอุทัยได้ค้างชำระค่าเช่าบ้านเป็นเวลา 3 เดือน เป็นเงิน 36,000 บาท สุทินก็ได้ติดตามทวงถามเงินค่าเช่าแต่อุทัยก็ได้ปฏิเสธ ดังนั้นสุทินจะฟ้องร้องบังคับคดีได้หรือไม่ ?
ก. ได้ เพราะแม้ไม่ได้ทำสัญญาเช่ากันไว้ก็สามารถฟ้องร้องบังคับคดีกันได้
ข. ไม่ได้ เพราะการเช่าอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญ
ค. ได้ เพราะเพียงแต่ผู้ให้เช่าให้ผู้เช่าเข้าอาศัยในอสังหาริมทรัพย์ก็ฟ้องร้องบังคับคดีได้แล้ว
ง. ได้ เพราะ เมื่อผู้เช่าขอเช่าอสังหาริมทรัพย์และผู้ให้เช่าอนุญาตให้เช่า สัญญาเช่าก็เกิดไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือก็สามารถฟ้องร้องบังคับ คดีได้
ข้อที่ 6. รณตกลงเช่าซื้อรถไถนาของขาวเป็นเงิน 400,000 บาทโดยตกลงชำระเป็นงวดๆละ 20,000 บาทโดยมิได้ทำเป็นหนังสือ การเช่าซื้อรถไถของรณกับขาวมีผลเป็นอย่างไร ?
ก. โมฆะ
ข. โมฆียะ
ค. สมบูรณ์
ง. ไม่มีข้อถูก
ข้อที่ 7. สมพรกู้เงินแดงเป็นเงิน 1900 บาท เมื่อถึงกำหนดชำระเงินสมพรไม่ยอมชำระแดงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้หรือไม่ ?
ก. ไม่ได้ เพราะสัญญาไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
ข. ได้ เพราะการกู้เงินที่ไม่เกิน 2000 แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ฟ้องร้องบังคับคดีได้
ค. ไม่ได้ เพราะกฎหมายกำหนดว่าการกู้ยืมเงินต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
ง. ไม่มีข้อถูก
ข้อที่ 8. หากนายพิชัยต้องการจะนำที่ดินของตนไปจำนองต่อพลพิชัยต้องกระทำอย่างไรจึงจะทำให้สัญญาจำนองชอบด้วยกฎหมาย ?
ก. ทำเป็นหนังสือ
ข. มีหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใดลงลายชื่อผู้ต้องรับผิดเป็นสำคัญ
ค. ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ง. จดทะเบียน
ข้อที่ 9. นายสมพรทำประกันวินาศภัยกับบริษัทสุพจน์ประกันภัยไว้ ต่อมาระหว่างสัญญาประกันภัยได้เกิดไฟไหม้บ้านสมพร ต่อมาสมพรได้ติดต่อกับบริษัทให้ใช้ค่าสินไหมทดแทน แต่ทางบริษัทกลับเพิกเฉยไม่ยอมชำระ สมพรจะฟ้องร้องบังคับคดีได้ภายในเวลากี่ปี ?
ก. 10 ปีนับแต่วันวินาศภัย
ข. 1 ปีนับแต่วันวินาศภัย
ค. 5 ปีนับแต่วันวินาศภัย
ง. 2 ปีนับแต่วันวินาศภัย
ข้อที่ 10. สุริยาทำประกันชีวิตแบบอาศัยเหตุมรณะกับทิพยประกันภัยต่อมา สุริยาได้กระทำอัตตวินิบาตด้วยใจสมัครภายใน 2 ปีนับแต่วันทำสัญญากรณีดังกล่าวทิพยประกันภัยต้องใช้เงินประกันหรือไม่ ?
ก. ต้องจ่ายเงินประกันชีวิตเพราะสัญญาประกันชีวิตสมบูรณ์แล้ว
ข. ไม่ต้องจ่ายเงินประกันชีวิตเพราะผู้เอาประกันชีวิตได้กระทำอัตตวินิจบาตด้วยใจสมัคร
ค. ต้องจ่ายเงินประกันชีวิตเพราะผู้แม้ว่าผู้เอาประกันภัยได้กระทำอัตตวินิจบาต ด้วยใจสมัครก็ตามแต่มิได้กระทำภายในระยะเวลา 1 ปีอันเป็นข้อยกเว้นที่บริษัทไม่ต้องจ่ายเงิน
ง. ต้องจ่ายเงินประกันชีวิตเพราะผู้เอาประกันชีวิตทำสัญญาประกันชีวิตโดยอาศัยเหตุมรณะ
แนวข้อสอบเก่าเทคโนโลยีสารสนเทศ [ชุดที่ 1]
คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียง 1 ข้อ
ข้อที่ 1. Central Processing Unit : CPU คือ ?
ก. หน่วยรับข้อมูล
ข. หน่วยประมวลผลกลาง
ค. หน่วยแสดงผล
ง. หน่วยความจำชั่วคราว
ข้อที่ 2. “Graphical User Interface : GUI” คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ?
ก. เป็นส่วนประสานกราฟิกกับผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานซอฟต์แวร์ได้ง่ายขึ้น
ข. เป็นซอฟต์แวร์ที่ประสานกราฟิกกับผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งงานซอร์ฟแวร์ผ่านรูปแบบที่เป็นกราฟฟิก
ค. เป็นระบบป้องกันเครื่องคอมพิวเตอร์
ง. เป็นฮาร์ดแวร์ที่ประสานกราฟิกกับผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งงานฮาร์ดแวร์ผ่านรูปแบบที่เป็นกราฟฟิก
ข้อที่ 3. ในการสื่อสารระดับต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ระดับที่มีความเกี่ยวข้องกับการรับข้อมูลเป็นบิต ซึ่งเกี่ยวข้องกับระดับแรงดันไฟฟ้าช่วงความถี่ คาบเวลา เรียกการสื่อสารในระดับนั้นว่าอะไร ?
ก. ระดับฟิสิคัล (Physical Layer)
ข. ระดับดาต้าลิงค์ (Data Link Layer)
ค. ระดับเนตเวอร์ค (Network Layer)
ง. ผิดทุกข้อ
ข้อที่ 4. ข้อใดมิใช่อุปกรณ์ในเครือข่าย (Network Operation System) คอมพิวเตอร์ ?
ก. การ์ดเชื่อมต่อเครือข่าย (Network Interface Card :NIC)
ข. โมเด็ม ( Modem : Modulator Demodulator)
ค. หน้าจอ LCD
ง. ฮับ ( Hub)
ข้อที่ 5. ข้อใดกล่าวถึงโครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (TOPOLOGY) ได้ถูกต้อง ?
ก. bus topology : ถ้ามีจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายมากเกินไป จะมีการส่งข้อมูลชนกันมากจนเป็นปัญหา
ข. ring topology : ทิศทางการส่งข้อมูลจะเป็นทิศทางเดียวกันเสมอ จากเครื่องหนึ่งจนถึงปลายทาง
ค. bus topology : ทิศทางการส่งข้อมูลจะเป็นทิศทางเดียวกันเสมอ จากเครื่องหนึ่งจนถึงปลายทาง
ง. ring topology : ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งเสียก็จะไม่ส่งผลต่อการทำงานของระบบโดยรวม
ข้อที่ 6. ข้อใดบอกถึงสัญญาณข้อมูลชนิดดิจิทัล (Digital Signal) ได้ถูกต้อง ?
ก. รูปสัญญาณของสัญญาณมีความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปะติดปะต่อ
ข. 14,400 bps หมายถึง มีความเร็วในการส่งข้อมูลจำนวน 14,4001 บิตในระยะเวลา 1 นาที
ค. มีลักษณะเป็นคลื่นไซน์ (Sine Wave)
ง. เฮิรตซ์ (Hertz) คือหน่วยวัดความถี่ของสัญญาณข้อมูลแบบดิจิทัล
ข้อที่ 7. คุณสมบัติของสายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) ตรงตามข้อใด ?
ก. เป็นสื่อนำข้อมูลแบบไร้สาย (Wireless Media)
ข. มีความถี่ในการส่งข้อมูลประมาณ 100 MHz ถึง500 MHz
ค. ราคาต่ำกว่าสายบิดเกลียว
ง. ถูกทุกข้อ
ข้อที่ 8. เครื่องพิมพ์ชนิดพล็อตเตอร์ (plotter) เหมาะกับอาชีพใดมากที่สุด ?
ก. สถาปนิก ข. ตำรวจ
ค. นักเขียน ง. แพทย์
ข้อที่ 9. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ ?
ก. ฮาร์ดแวร์ ข. ซอฟต์แวร์
ค. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ง. กระดาษ
ข้อที่ 10. ข้อใดคือตัวอย่างของซอฟต์แวร์ระบบ ?
ก. ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์
ข. ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน
ค. ซอฟต์แวร์นำเสนอข้อมูล
ง. ซอฟต์แวร์กราฟิก
แนวข้อสอบกฎหมายลักษณะพยาน (ป. วิอาญา ภาค 5 พยานหลักฐาน)
คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
ภาค 5 พยานหลักฐาน หมวด 1 หลักทั่วไป มาตรา 226 ถึง มาตรา 231
ข้อที่ 1. ตามมาตราที่ 226 พยานในข้อใดให้ใช้อ้างเป็นพยานหลักฐานได้ ?
ก. พยานวัตถุ
ข. พยานเอกสาร
ค. พยานบุคคล
ง. ถูกทุกข้อ
ข้อที่ 2. ศาลสามารถรับฟังพยานหลักฐานในกรณีที่พยานหลักฐานที่ได้มาจากการกระทำโดยมิชอบได้ ในกรณีใด ?
ก. ในกรณีที่การรับฟังพยานหลักฐานนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อการอำนวยความยุติธรรมมากกว่าผลเสีย
ข. ในกรณีที่การรับฟังพยานหลักฐานนั้นจะเป็นผลเสียต่อการอำนวยความยุติธรรม
ค. ในกรณีที่การรับฟังพยานหลักฐานนั้นไม่ก่อให้เกิดความเสียหายที่เกิดจากการกระทำโดยมิชอบ
ง. ได้ทุกกรณี
ข้อที่ 3. ตามมาตราที่ 226/2 พยานหลักฐานชนิดใดที่ศาลจะไม่รับพิจารณา ?
ก. พยานหลักฐานที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดครั้งอื่น ๆ เพื่อพิสูจน์ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดในคดีที่ถูกฟ้อง
ข. พยานหลักฐานที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับองค์ประกอบความผิดของคดีที่ฟ้อง
ค. พยานหลักฐานที่แสดงถึงลักษณะ วิธี หรือรูปแบบเฉพาะในการกระทำความผิดของจำเลย
ง. พยานหลักฐานที่หักล้างข้อกล่าวอ้างของจำเลยถึงการกระทำ หรือความประพฤติในส่วนดีของจำเลย
ข้อที่ 4. ศาลสามารถรับฟังพยานบอกเล่าได้ในกรณีใด ?
ก. ในกรณีที่สภาพ ลักษณะ แหล่งที่มา และข้อเท็จจริงแวดล้อมของพยานบอกเล่านั้นน่าเชื่อว่าจะพิสูจน์ความจริงได้
ข. ในกรณีที่มีเหตุจำเป็น เนื่องจากไม่สามารถนำบุคคลซึ่งเป็นผู้ที่ได้เห็น ได้ยิน หรือทราบข้อความเกี่ยวในเรื่องที่จะให้การเป็นพยานนั้นด้วยตนเองโดยตรงมาเป็นพยานได้ และมีเหตุผลสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะรับฟังพยานบอกเล่านั้น
ค. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
ง. ผิดทั้งข้อ ก และ ข
ข้อที่ 5. ในการวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานบอกเล่าตามมาตรา 227/1 ศาลจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง และไม่ควรเชื่อพยานหลักฐานนั้นโดยลำพังเพื่อลงโทษจำเลยเว้นแต่…………?
ก. มีเหตุผลอันหนักแน่นและมีพฤติการณ์พิเศษแห่งคดี
ข. มีพยานหลักฐานประกอบอื่นมาสนับสนุน
ค. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
ง. ผิดทั้งข้อ ก และ ข
ข้อที่ 6. ข้อใดให้ความหมายของ “พยานหลักฐานประกอบ” ตามมาตราที่ 227/1 ได้ชัดเจนที่สุด ?
ก. พยานหลักฐานที่เกิดจาก พยานในเหตุการณ์
ข. พยานหลักฐานที่เกิดจากโจทย์ที่ฟ้องจำเลย และต้องมาจากพยานในเหตุการณ์
ค. พยานหลักฐานอื่นๆ นอกจากพยานในเหตุการณ์ เช่น คำให้การของเพื่อนจำเลย หรือ คำให้การจากญาติจำเลย เป็นต้น
ง. พยานหลักฐานอื่นที่รับฟังได้ และมีแหล่งที่มาเป็นอิสระต่างหากจากพยานหลักฐานที่ต้องการพยานหลักฐานประกอบนั้น
ข้อที่ 7. ในการไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ต้องยื่นบัญชีระบุพยานหลักฐานไม่น้อยกว่ากี่วัน ก่อนวันไต่สวนมูลฟ้องหรือวันสืบพยาน ?
ก. ไม่น้อยกว่าสิบห้าวันก่อนวันไต่สวนมูลฟ้องหรือวันสืบพยาน
ข. ไม่น้อยกว่ายี่สิบวันก่อนวันไต่สวนมูลฟ้องหรือวันสืบพยาน
ค. ไม่น้อยกว่าสามสิบวันก่อนวันไต่สวนมูลฟ้องหรือวันสืบพยาน
ง. ไม่น้อยกว่าสี่สิบวันก่อนวันไต่สวนมูลฟ้องหรือวันสืบพยาน
ข้อที่ 8. ในกรณีที่มีเหตุจำที่พยานไม่สามารถมาเบิกความในศาลได้ คู่ความสามารถร้องขอให้พยานเบิกความที่ศาลอื่นได้หรือไม่ ?
ก. ได้ ตามมาตรา 230
ข. ไม่ได้ ตามมาตรา 230
ค. ได้ ตามมาตรา 230/1
ง. ไม่ได้ ตามมาตรา 230/1
ข้อที่ 9. ในกรณีที่ไม่อาจสืบพยานตามมาตรา 230/1 ได้ คู่ความสามารถเสนอบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงแทนการนำพยานบุคคลมาเบิกความต่อหน้าศาลได้หรือไม่ ?
ก. ได้ ตามมาตรา 230/1
ข. ไม่ได้ ตามมาตรา 230/1
ค. ได้ ตามมาตรา 230/2
ง. ไม่ได้ ตามมาตรา 230/2
ข้อที่ 10. เมื่อคู่ความต้องการให้ส่งเอกสารหรือข้อความที่ยังเป็นความลับในราชการเป็นพยานหลักฐาน ศาลมีอำนาจส่งหมายเรียกพยานหลักฐานนั้นตามคำร้องได้หรือไม่ ?
ก. ได้ ตามมาตรา 230/1
ข. ไม่ได้ ตามมาตรา 231
ค. ได้ ตามมาตรา 231
ง. ไม่ได้ ตามมาตรา 232/2
หน้าที่เข้าชม | 1,476,825 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,088,526 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 พ.ค. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 23 ต.ค. 2568 |